• เมืองซาดาร์ (Zadar) เมืองที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 3,000
ปีและเป็นเมืองท่าสำคัญของทะเลเอเดรียติค
ที่มีบทบาทมาตั้งแต่สมัยโรมันจนถึงปัจจุบัน
(ขอบคุณภาพ จาก http://www.nationsonline.org/oneworld/map/croatia_map.htm)
👉👉 นั่งรถแบบงัวเงียต่อไปอีกหน่อยเป้าหมาย เมืองซาดาร์ (Zadar) 💃
👀ก่อนเริ่มเข้าเมืองเก่า แวะมายังจุดสำคัญ แล้วไปอิ่มอร่อยมื้อเที่ยงกัน 👫
• เมืองซาดาร์ (Zadar) อดีตเมืองหลวงเก่าของภูมิภาคดัลเมเชีย (Dalmatia) ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยโรมันอีกด้วย นอกจากนี้แล้วเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวเรือที่มาค้าขายในแถบนี้ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์กลางทางด้านการค้าขายมาตั้งแต่สมัยอดีต
👀 เดินเข้าซุ้มประตูเข้าไปเลย
👀 คนเริ่มเยอะ
👀 เดินต่อมาถึง มหาวิหารเซนต์ อนาตาเซีย (St. Anastasia Cathedral)
• มหาวิหารเซนต์ อนาตาเซีย (St. Anastasia Cathedral) คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในดัลเมเทีย ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 ถึง 5 เป็นประจำเมืองซาดาร์ แม้ว่ามหาวิหารจะผ่านการถูกทำลายในสงครามมาแล้วก็ตาม
👀 เดินทะลุมาถึงชายฝั่งริมทะเล
👀 มองเห็น Monument to the Sun
Monument to the Sun อนุสาวรีย์ดวงอาทิตย์ (โครเอเชีย: Pozdrav suncu) เป็นอนุสาวรีย์ใน Zadar โครเอเชียทุ่มเทให้กับดวงอาทิตย์ ประกอบด้วยแผ่นกระจกสามชั้นหลายชั้นวางอยู่ในระดับเดียวกันกับริมน้ำที่ปูด้วยหินในรูปของวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 22 เมตรโดยมีโมดูลแสงอาทิตย์ด้านแรงดันไฟฟ้าด้านภาพอยู่ด้านล่าง องค์ประกอบของแสงที่ติดตั้งในวงกลมเปิดในเวลากลางคืนและแสดงผลของแสง อนุสาวรีย์เป็นสัญลักษณ์ของการสื่อสารกับธรรมชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารกับแสงในขณะที่อวัยวะ Sea organ บริเวณใกล้เคียงหมายถึงการสื่อสารกับเสียง
(ขอบคุณภาพ จาก http://www.nationsonline.org/oneworld/map/croatia_map.htm)
👉👉 นั่งรถแบบงัวเงียต่อไปอีกหน่อยเป้าหมาย เมืองซาดาร์ (Zadar) 💃
👀ก่อนเริ่มเข้าเมืองเก่า แวะมายังจุดสำคัญ แล้วไปอิ่มอร่อยมื้อเที่ยงกัน 👫
👀เมื่อเราหยุดอยู่ใน Senj เราอยู่ในจุดกึ่งกลางของซีกโลกเหนือซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่โด่งดังด้วยสัญลักษณ์และนาฬิกาแดด
👀ถ้าเราขยายจุดยืนของเราใน Senj เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงหรือสองชั่วโมงเราอาจได้เรียนรู้ว่าบริเวณดังกล่าวถูกปกครองโดยชนเผ่าอิลลีเรียนอย่างน้อยที่สุดก็ในช่วงศตวรรษที่สี่ก่อนคริสต์ศักราชเมื่อเอกสารกรีกกล่าวถึงการตั้งถิ่นฐานที่ไซต์
Attienities คริสตจักรคาทอลิกมีสังฆมณฑลตั้งอยู่ที่นั่นใน
ค.ศ. 1169 และกษัตริย์ฮังการีBéla III ได้มอบเมืองให้แก่
Knights Templar ใน ค.ศ. 1184
👀 จากนั้นก็เตรียมพร้อมก่อนลุยต่อเมืองเก่า
👀 ถึงละลงรถปุ๊บ ก็เดินต่อมาถึงท่าเรือ
👀 คนเริ่มเยอะ
👀 เดินต่อมาถึง มหาวิหารเซนต์ อนาตาเซีย (St. Anastasia Cathedral)
• มหาวิหารเซนต์ อนาตาเซีย (St. Anastasia Cathedral) คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในดัลเมเทีย ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 ถึง 5 เป็นประจำเมืองซาดาร์ แม้ว่ามหาวิหารจะผ่านการถูกทำลายในสงครามมาแล้วก็ตาม
👀 เดินต่อ ชมเมืองเก่า พร้อมชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนแถวนี้
👀 มองเห็น Monument to the Sun
Monument to the Sun อนุสาวรีย์ดวงอาทิตย์ (โครเอเชีย: Pozdrav suncu) เป็นอนุสาวรีย์ใน Zadar โครเอเชียทุ่มเทให้กับดวงอาทิตย์ ประกอบด้วยแผ่นกระจกสามชั้นหลายชั้นวางอยู่ในระดับเดียวกันกับริมน้ำที่ปูด้วยหินในรูปของวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 22 เมตรโดยมีโมดูลแสงอาทิตย์ด้านแรงดันไฟฟ้าด้านภาพอยู่ด้านล่าง องค์ประกอบของแสงที่ติดตั้งในวงกลมเปิดในเวลากลางคืนและแสดงผลของแสง อนุสาวรีย์เป็นสัญลักษณ์ของการสื่อสารกับธรรมชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารกับแสงในขณะที่อวัยวะ Sea organ บริเวณใกล้เคียงหมายถึงการสื่อสารกับเสียง
💃💃เดินต่อมาถึง
• โรมันฟอรัม (Roman Forum) ลานประชุมกลางเมือง ที่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง
ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันออกของทะเลเอเดรียติก
(Adriatic
Sea)
💃💃เดินต่อมาถึง โบสถ์ เซนต์ โดแนท (St. Donatus Church)
💃💃เดินต่อมาถึง โบสถ์ เซนต์ โดแนท (St. Donatus Church)
โบสถ์ เซนต์ โดแนท (St. Donatus Church) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับโรมันฟอรัม
ซึ่งเป็นโบสถ์ไบเซนไทน์ที่ใหญ่ที่สุดในดัลเมเทีย ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 9
โดยตัวอาคารนั้นสร้างแบบหลังคาทรงกลม ใช้งานสำหรับพิธีกรรมทางศาสนา
ปัจจุบันได้กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองซาดาร์ไปแล้วด้วย
ถัดไปใกล้ๆกันจะเป็น โบสถ์ เซนต์ แมรี่ (St. Mary's Church) ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับการเก็บงานศิลปะ
วัตถุโบราณที่มีความสำคัญทางศาสนา
(ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.oceansmile.com/Europe/CroatiaZadar.htm)
ผู้ก่อตั้งโรมันฟอรัมเป็นจักรพรรดิแห่งโรมันออกัสตัสคนแรกคำเบิกความซึ่งเป็นจารึกบนหินตั้งแต่สมัยศตวรรษที่
3 เมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้น ครอบคลุมพื้นที่ 90 x 45 เมตร
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น